กล้องส่องทางไกลนับเป็นสิ่งห้อยคอคู่กายของนักดูนกและนักนิยมธรรมชาติหลาย หลายท่านอาจสงสัยว่ากล้องส่องทางไกลที่เราใช้ในปัจจุบันนั้นมีความเป็นมาอย่างไร และใครเป็นผู้ประดิษฐ์อุปกรณ์แสนวิเศษตัวนี้ครับ
กล้องส่องทางไกลตัวแรกของโลกสร้างโดยท่านกาลิเลโอ
กล้องส่องทางไกลตัวแรกของโลกนั้นเป็นกล้องส่องทางไกลแบบตาเดียว ถูกคิดค้นโดยนักดาราศาสตร์ผู้มีชื่อเสียงก้องโลก คือ คุณ กาลิเลโอ (Galileo Galilei) ในปี ค.ศ. 1609 ด้วยสิ่งประดิษฐ์ของท่านทำให้ท่านเป็นมนุษย์คนแรกที่เห็นพื้นผิวพระจันทร์ วงแหวนดาวเสาร์และค้นพบจุดดับบนดวงอาทิตย์ อย่างไรก็ตาม กล้องเทเลสโคปของท่านกาลิเลโอประดิษฐ์นั้นเป็นการนำเลนส์ 2 ชิ้นมาเรียงกัน (Refractor Type) ทำให้มีอัตราขยายไม่สูงมากคือ ประมาณ30 เท่า เท่านั้น
รูปแบบของกล้องส่องทางไกลแบบกาลิเลโอที่เราคุ้นเคยกันได้แก่กล้องดูละคร (opera glass) หรือ Spyglass กล้องตาเดียวที่โจรสลัดใช้งานในภาพยนตร์นั่นเองครับ
ในปี ค.ศ.1704 เซอร์ไอแซค นิวตัน ได้ประกาศแนวคิดในการออกแบบกล้องเทเลสโคปใหม่ โดยใช้กระจกโค้งสะท้อนแสงที่เดินทางจากวัตถุให้ไปยังกระจกโค้งชิ้นที่ 2 เพื่อรวมแสงและส่งไปยังเลนส์ตา ด้วยเทคนิคของท่านนิวตันทำให้กล้องเทเลสโคปสามารถออกแบบให้มีอัตราขยายและการรวมแสงสูงกว่าแบบเดิมมากโดยการเพิ่มขนาดของกล้อง และกล้องเทเลสโคปที่นิวตันประดิษฐ์ซึ่งมีเส้นผ่านศูนย์กลางเพียง 6 นื้ว และได้กลายเป็นต้นแบบของกล้องดูดาวที่ใช้งานกันทุกวันนี้ โดยกล้องแบบนิวตันที่ใหญ่ที่สุดคือโทรทัศน์ที่หอดูดาวในรัสเซีย ซึ่งมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางกล้องถึง 6 เมตร หรือ 236 นิ้วเลยทีเดียว
กล้องส่องทางไกลแบบ 2 ตา หรือ Binoculars ตัวแรกถูกประดิษฐ์ขึ้นโดย J. P. Lemiere ในปี ค.ศ. 1825 โดย Lemiere ได้นำกล้อง Opera glass แบบตาเดียว 2 ตัวมายึดบนเฟรมเดียวกัน และภายหลังจากนั้นกล้องส่องทางไกล Opera Glasses แบบ 2 ตาก็ได้รับความนิยมในหมู่คนสูงศักดิ์และร่ำรวย และกลายเป็นอุปกรณ์แฟชั่นที่ขาดไม่ได้ในการชมละคร โดยกล้องส่องทางไกลในยุคนั้นจะถูกทำขึ้นจากวัสดุดีเยี่ยม อาทิเช่น ทองคำ เงิน ไข่มุก หรือ อีนาเมล
จุดกำเนิดกล้องส่องทางไกล 2 ตาที่เป็นรากฐานของกล้องส่องทางไกลทุกวันนี้อยู่ในช่วงทศวรรษ 1890s โดยกล้องส่องทางไกลที่ใช้ปริซึม (prismatic Binoculars) ตัวแรกของโลกผลิตจากบริษัท Carl Zeiss Jena ในประเทศเยอรมันนี โดย Abbe (ผู้บริหารบริษัท Carl Zeiss รุ่นที่ 2) ได้นำปริซึมชนิด Porro (คิดค้นโดย Ignazio Porro) มาออกแบบและประดิษฐ์ใหม่กลายเป็น ปริซึมชนิด Porro-Abbe โดยการเปลี่ยนจากการใช้ปริซึม Porro 2 ชิ้นมาต่อกัน กลายเป็นปริซึมแก้วชิ้นเดียวเพื่อลดความสูญเสียทางแสง และได้จดสิทธิบัตรปริซึมดังกล่าว โดยปริซึม Perro-Abbe ได้สร้างชื่อเสียงเป็นอันมากให้กับกล้องส่องทางไกล Zeiss ในยุคปี 1890
จากความนิยมในคุณภาพกล้องส่องทางไกล Zeiss ทำให้ในปี ค.ศ. 1894 Zeiss ได้สร้างสายการผลิตกล้องส่องทางไกลสองตาโดยใช้ปริซึมออกจำหน่ายทั้งในประเทศและส่งออกไปยังประเทศต่างๆ โดยในปี ค.ศ. 1900 ได้มีการบันทึกว่ามีการจ้างคนงานมากถึง 1,000 คนสำหรับสายการผลิตกล้องส่องทางไกล เมื่อสิทธิบัตรปริซึม Porro-Abbe หมดลงในปี ค.ศ.1908 ผู้ผลิตกล้องส่องทางไกลเกือบทุกรายก็ได้นำรูปแบบปริซึมนี้ไปใช้ในกล้องส่องทางไกลตนและเครื่องหมายการค้า ‘Carl Zeiss Jena’ ก็ได้ถูกใช้ตั้งแต่ปี ค.ศ.1904 เรื่อยมาจนกระทั้งในปี 1991 ที่มีการรวมชาติเยอรมันเข้าด้วยกัน ทาง Zeiss จึงได้เปลี่ยนตราสินค้าเป็น Zeiss ดังเช่นในปัจจุบัน
จากนั้นกล้องส่องทางไกลแบบใช้ปริซึมก็ได้รับความนิยมเป็นอันมากและแทนที่กล้องส่องทางไกลแบบ Galiliean ไปในที่สุด
หนึ่งร้อยกว่าปีผ่านไป รูปแบบของกล้องส่องทางไกลสองตา หรือ Binoculars ยังคงมีหน้าตาเฉกเช่นเดียวกล้อง Carl Zeiss Binoculars ที่ถูกประดิษฐ์โดยคุณAbbe ครับ
กล้องส่องทางไกลแบบปริซึมตัวแรกของโลก ผลิตโดย Carl Zeiss เยอรมันเมื่อปี ค.ศ. 1894 (ภาพจากเวปไซด์ บ. Zeiss)
กล้องส่องทางไกล Zeiss ผลิตในปี 1918 (ภาพจากพิพิธภัณฑ์ Berlin)
กล้องส่องทางไกล Zeiss ที่จำน่ายในปัจจุบัน (2008)